ป้องกันลูกจาก กัญชา หรือ สารเสพติด อย่างไร

ข่าวเกี่ยวกับยาเสพติด หรือสารมึนเมา มีมากขึ้นทุกวัน ไม่เพียงแค่กับผู้ใหญ่ แม้แต่เด็ก 4 ขวบ ภัยจากสารพวกนี้ยังคุกคาม ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีข่าวเด็กอายุ 4 ขวบเผลอกินน้ำกัญชาที่ผู้ใหญ่ต้มแล้วนำไปแช่ไว้ที่ตู้เย็น ทำให้เซื่องซึม อาเจียน นอนหลับนานกว่าปกติ…

ข่าวเกี่ยวกับยาเสพติด หรือสารมึนเมา มีมากขึ้นทุกวัน ไม่เพียงแค่กับผู้ใหญ่ แม้แต่เด็ก 4 ขวบ ภัยจากสารพวกนี้ยังคุกคาม

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีข่าวเด็กอายุ 4 ขวบเผลอกินน้ำกัญชาที่ผู้ใหญ่ต้มแล้วนำไปแช่ไว้ที่ตู้เย็น ทำให้เซื่องซึม อาเจียน นอนหลับนานกว่าปกติ

ในฐานนะพ่อแม่ หรือผู้ดูแล คงจะรู้สึกกังวลใจไม่น้อย เพราะสารเสพติด หรือสารมึนเมา มีส่วนที่ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง มีผลร้ายแรงต่อสมอง พัฒนาการล่าช้า ปัญหาพฤติกรรม ระดับสติปัญญา และเกิดความผิดปกติของสภาวะทางอารมณ์ หรืออาจจะไปสู่ปัญหาในระดับครอบครัวและสังคมได้ ดังนั้น เราจึงต้องปกป้องลูก และสอนลูกให้รู้เท่าทัน สามารถรับมือกับภัยยาเสพติดได้ เช่น

1) หาความรู้ให้ตัวเอง (พ่อแม่ หรือผู้ดูแล)

หากเราไม่เข้าใจเรื่องยาเสพติดประเภทต่าง ๆ  หรือสารมึนเมา เป็นไปได้ว่าเราก็อาจะให้ข้อมูลกับลูกแบบผิด ๆ ยิ่งในช่วงวัยรุ่นเขาจะจับผิด และสงสัยในคำตอบของผู้ใหญ่ หากไม่เชื่อถือก็นำไปสู่การอยากรู้อยากลองเอง  ดังนั้น พ่อแม่ก็ควรหาข้อมูลทำการบ้านเสียก่อน

2) สอนให้ลูกเข้มแข็ง

เด็กหลายคนมักจะต้องการเป็นที่ยอมรับจากกลุ่มเพื่อน หรือสังคมที่เขาอยู่ ไม่อยากรู้สึกแปลกแยก ดังนั้น จึงควรเพิ่มความมั่นใจในตัวเองให้เขาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก  มอบความรักเพื่อทำให้ลูกรู้สึกภูมิใจในตัวเอง และกล้าจะปฏิเสธในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

3) ตั้งกฎที่ชัดเจนใช้ร่วมกันในครอบครัว

การตั้งกฎในบ้านโดยเฉพาะ “เรื่องการใช้ยาเสพติด” เป็นเรื่องสำคัญ ควรตั้งกฎให้ชัดเจนเกี่ยวกับการไม่ใช้ยาเสพติด ถึงแม้ลูกอาจจะบอกว่า “เปิดเสรีแล้ว” ก็จงมั่นคงกับกฎของคุณเพราะมันจะสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อและหลักการของครอบครัว

4) ฝึกลูกให้ปฏิเสธ

จำลองสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยง ที่ลูกอาจจะได้เจอเพื่อให้เขาได้ลองปฏิเสธว่า หากเจอคนชักชวนจะทำอย่างไร เช่น แฟนชวนให้ลอง เพื่อนให้ลอง หากไม่ทำจะไม่ให้เข้ากลุ่ม เป็นต้น 

เรื่องยาเสพติดไม่ใช่เรื่องไกลตัว ยิ่งสมัยนี้ที่กฎหมายเปิดให้เสรีได้มากกว่าเดิม นอกจากเพื่อนที่มีอิทธิพล พ่อแม่ก็มีอิทธิพลกับลูก การเลี้ยงดู การเข้าใจลูก จะทำให้เราพูดคุยกับลูกได้ เกิดความไว้วางใจ รู้สึกปลอดภัยในครอบครัว สิ่งเหล่านี้จะหล่อหล่อมจิตใจให้เขาอยู่ในสังคมที่มีอันตรายได้