5 วิธีง่ายๆ ฝึกสมองให้จำแม่น

สมองส่วนไฮโปทาลามัสมีความมหัศจรรย์อย่างมากที่มีความสามารถในการจดจำเรื่องราวต่างๆ อย่างมหาศาล แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะสามารถจดจำเรื่องต่างๆ ในชีวิตของเราได้ทั้งหมด เพราะสมองจะมีระบบการลบทิ้งสำหรับเรื่องราวที่ดูจะไม่มีประโยชน์กับชีวิต การฝึกกระตุ้นการจดจำจากเรื่องง่ายๆ…

สมองส่วนไฮโปทาลามัสมีความมหัศจรรย์อย่างมากที่มีความสามารถในการจดจำเรื่องราวต่างๆ อย่างมหาศาล แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะสามารถจดจำเรื่องต่างๆ ในชีวิตของเราได้ทั้งหมด เพราะสมองจะมีระบบการลบทิ้งสำหรับเรื่องราวที่ดูจะไม่มีประโยชน์กับชีวิต การฝึกกระตุ้นการจดจำจากเรื่องง่ายๆ ในชีวิต ประจำวันจะช่วยให้สมองส่วนนี้ได้พัฒนา วิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้เราไม่เข้าสู่ภาวะสมองเสื่อมเร็วกว่ากำหนด มาลองดูกันเลย

 

1. จำของในตู้เย็น 

หลายอย่างที่เราซื้อมาถูกเก็บไว้ในตู้เย็นและแล้วมันก็ถูกลืม ความจำต่อสิ่งนั้นจะกลับมาก็ตอนที่กลิ่นของมันเริ่มโชยเตะจมูก เป็นสัญญาณบอกว่าฉันหมดอายุแล้ว เอาฉันไปทิ้งที เหตุการณ์เหล่านี้เหมือนกับเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา เหตุการณ์ที่เราไม่ได้ใส่ใจมากนัก หรือไม่ได้ฝึกบอกสมองว่าให้จดจำ สมองจึงพิจารณาว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีความสำคัญไม่ต้องจดจำก็ได้ และในที่สุดเราก็จะลืมมันไป การฝึกให้สมองจดจำก่อนที่เราจะใส่ของต่างๆ เข้าไปในตู้เย็นจะทำให้สมองนำข้อมูลเหล่านั้นไปสู่ส่วนเหตุผลเพื่อบันทึก ซึ่งหากทำอย่างตั้งใจ เมื่อถึงเวลาที่สมควรสมองจะดึงข้อมูลเหล่านั้นกลับมาเตือนเราอีกครั้ง การฝึกจดจำสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในตู้เย็นจึงเหมือนเป็นการกระตุ้นให้สมองทำงานอย่างครบวงจรนั่นเอง ไม่เพียงแค่การบันทึก แต่ยังหมายถึงการเรียกคืนกลับมาด้วย

 

2. จัดโต๊ะทำงาน

โต๊ะทำงานของบางคนมีข้าวของต่างๆ เต็มไปหมด จนไม่รู้ว่าของชิ้นไหนอยู่ตรงไหน การจัดโต๊ะทำงานอยู่เสมอจะช่วยทำให้เราระลึกถึงได้ว่าของชิ้นไหนที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการทำงาน และมันควรถูกจัดวางไว้บริเวณใด การจัดระบบแบบนี้เหมือนการจัดระบบของสมองไปด้วย ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในสมองเรามีมากมาย การฝึกให้สมองได้รู้จัดจัดระบบระเบียบและคัดสรรสิ่งที่จำเป็นจะทำให้เมื่อเราต้องการใช้งานข้อมูลต่างๆ สมองจะสามารถรื้อค้นและนำออกมาใช้ง่ายได้ง่ายและรวดเร็ว การจัดโต๊ะทำงานและสมองจึงเหมือนเป็นการฝึกการเลือกทิ้งและเลือกเก็บ ให้เราแยกแยะระหว่างขยะและความทรงจำของเรานั่นเอง

 

3. เขียนบันทึก

การเขียนบันทึก เป็นการช่วยทำให้สมองส่วนฮิปโปทาลามัสได้ทำงานอยู่เป็นกิจวัตร อีกทั้งยังช่วยคัดกรองเหตุการณ์ต่างๆ ที่สำคัญซึ่งผ่านเข้ามาในชีวิตเราแต่ละวัน โดยปกติเรารับรู้เรื่องราวเหล่านั้นผ่านประสาทสัมผัสแต่การจะคัดกรองว่าเรื่องราวใดที่ควรค่าแก่การจดจำ สมองต้องการกระบวนการตอกย้ำ ซึ่งการจดบันทึก คือกระบวนการดังกล่าว อย่างน้อยเพียงแค่เรานึกทบทวนก็จะช่วยทำให้ช่วยให้สมองทำงานได้ง่ายขึ้น แถมด้วยการจดลงไปในสมุดโน๊ตหรือคอมพิวเตอร์ก็จะยิ่งช่วยให้เหตุการณ์นั้นอยู่กับเราไปอีกชั่วระยะเวลาหนึ่งเลยทีเดียว

 

4. ฟังเพลงเก่าที่ชื่นชอบ

ดนตรีหรือท่วงทำนองเก่าๆ ที่เราเคยชอบมักจะถูกบันทึกเก็บไว้ในลิ้นชักของสมองชั้นล่างสุด แต่คุณรู้หรือไม่ว่าความพิเศษของบทเพลงเหล่านี้จะถูกเก็บไว้พร้อมกับเรื่องราวต่างๆ เสมอ เพลงนี้เราฟังตอนที่อกหักครั้งแรก เพลงนั้นเราฟังกับเพื่อนๆ สมัยมัธยม เพลงโน้นแฟนตอนมหาลัยส่งให้ฟังวันวาเลนไทน์ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าความทรงจำต่างๆ จะถูกบันทึกไปพร้อมกับเหตุการณ์ซึ่งมีความรู้สึกประกอบอยู่ด้วยเสมอ ดังนั้นการรื้อฟื้นฟังเพลงเก่าๆ เหล่านี้จึงเปรียบเสมือนการสั่งให้สมองได้รื้อค้นย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หากคุณยังสามารถจำรายละเอียดของเหตุการณ์นั้นได้มากเท่าไร นั่นก็ยิ่งแสดงว่าสมองสามารถเก็บและเรียกความจำเหล่านั้นกลับมาได้อย่างมีประสิทธิภาพตามไปด้วย

 

5. ร้องเพลงแบบไม่ดูเนื้อ

เวลาที่เราไปร้องคาราโอเกะ หรือมีโอกาสได้ร้องเพลงต่อหน้าคนอื่น หลายคนแก้เขินด้วยการมองจอทีวี ไอแพด หรือมัวแต่จ้องมองเนื้อเพลงในโทรศัพท์มือถือ การทำเช่นนี้คุณทราบหรือไม่ว่าเป็นการร้องเพลงแบบใช้สมองซีกเดียว ทั้งนี้เนื่องจากในขณะที่เรามองเนื้อนั้น สมองทำงานเพียงแค่ในส่วนการอ่านเท่านั้น ดังนั้นหากต้องการให้สมองได้ใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ คุณควรฝึกจำเนื้อเพลงเหล่านั้น และร้องมันออกไปโดยใช้การนึกตามไปด้วย เพราะการร้องได้นั้นหมายถึงคุณกำลังใช้สมองซีกซ้าย และใช้สมองซีกขวาประเมินผลความถูกต้อง และทั้งสองซีกกำลังทำงานสอดประสานกัน ฝึกแบบนี้บ่อยๆ นอกจากเนื้อเพลงแล้วสมองจะจดจำเรื่องอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น

 

ที่มาข้อมูล: 

บทความ: Pill to caim traumatic memories วันที่ 18 มีนาคม ปี 2004 จากสำนักข่าว Gazette ของ มหาวิทยาลัยโฮวาร์ด (www.hno.harvard.edu/gazette)